เกณฑ์การอนุมัติวีซ่านักเรียนของสถานทูตอเมริกา
เกณฑ์การอนุมัติวีซ่านักเรียนของสถานทูตอเมริกาจะพิจารณาจากข้อมูลดังต่อไปนี้ เจ้าหน้าที่กงสุลของสถานทูตอเมริกาจะพิจารณาการสมัครขอวีซ่าอเมริกาเป็นกรณีไป ซึ่งจะไม่มีเอกสารใดๆสามารถรับประกันได้ว่าผู้สมัครจะได้รับการอนุมัติวีซ่า(หรือถูกปฏิเสธวีซ่า) เนื่องจากในแต่ละกรณีมีความแตกต่างกัน ซึ่งเอกสารที่ทำให้บุคคลหนึ่งได้รับการอนุมัติวีซ่า อาจใช้ไม่ได้กับกรณีอื่นๆ เนื่องจากกระบวนการสมัครขอวีซ่าอเมริกามิได้ใช้เอกสารเป็นหลัก หากแต่ในวันที่สัมภาษณ์วีซ่า ผู้สมัครจะต้องแสดงถึงความผูกพันต่อประเทศของตน และแสดงความบริสุทธิ์ใจที่จะไม่กระทำการใดๆที่ผิดต่อเงื่อนไขของวีซ่าแต่ละประเภท ผู้ที่ยื่นคำร้องขอวีซ่านักเรียนประเทศสหรัฐอเมริกาจะต้องนำเอกสารส่วนตัวทั้งหมดเพื่อไปสัมภาษณ์วีซ่าด้วยตนเองที่สถานทูตอเมริกา โดยจะต้องกรอกแบบฟอร์มวีซ่าและทำการนัดหมายเพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์วีซ่าผ่านระบบออนไลน์ในเว็บไซต์ของสถานทูตอเมริกา โดยวันที่สัมภาษณ์วีซ่าทางสถานทูตอเมริกาจะพิจารณาจากข้อมูลดังต่อไปนี้
1. รายละเอียดของหลักสูตรและข้อมูลของสถาบันที่ต้องการจะไปศึกษาต่อยังประเทศสหรัฐอเมริกา
2. เป้าหมายในอนาคตหลังจบการศึกษา
3. หลังจากที่สำเร็จการศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกานักเรียนจะเดินทางกลับมาประเทศไทยหรือไม่
4. นักเรียนมีญาติหรือบุคคลอื่นที่รู้จักในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่
5. มีเงินที่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่างๆขณะที่ศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
6. ประวัติการเข้าออกประเทศต่างๆ ว่าเคยกระทำผิดเงื่อนไขวีซ่ามาก่อนหรือไม่
เคล็ดลับการสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา
- ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อยแบบพอดี ไม่ต้องมีเครื่องประดับเยอะมากจนเกินไป และไม่จำเป็นต้องใส่สูทผูกเน็คไท ประมาณว่าแต่งตัวให้เหมาะสมและให้เกียรติแก่สถานที่ก็เพียงพอแล้ว
- ควรไปถึงสถานทูตอเมริกาก่อนเวลานัดมากกว่าครึ่งชั่วโมงขึ้นไป เพราะกว่าจะได้สัมภาษณ์วีซ่าจะต้องผ่านหลายขั้นตอนมาก ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการรอรับบัตรคิว, การตรวจเอกสาร, การตรวจกระเป๋า, รับคิวสัมภาษณ์และรับเลขที่ไปรษณีย์สำหรับการรับผลวีซ่า และถึงจะได้ไปต่อคิวรอสัมภาษณ์ด้านในของสถานทูตฯ เป็นขั้นตอนสุดท้าย
- เตรียมเอกสารส่วนตัวและเอกสารอื่นๆที่สำคัญไปให้เยอะที่สุด (เอาไปเผื่อเหลือ ดีกว่าเอาไปขาด) เพราะในสถานการณ์ ณ. ตอนนั้นหากลืมเอาเอกสารตัวไหนมา จะไม่สามารถยื่นเอกสารวีซ่าภายในวันนั้นได้ ต้องยกเลิกคิวสัมภาษณ์ในวันนั้นไปเลย และจะต้องทำเรื่องจองคิวเข้าไปใหม่อีกครั้ง ซึ่งบ่อยครั้งที่คิวสัมภาษณ์อาจไม่ได้มีว่างในวันเวลาที่เราต้องการก็เป็นได้
- ตอบคำถามด้วยความมั่นใจ ไม่ประหม่า เพราะหากเกิดอาการไม่มั่นใจในการตอบคำถาม อาจเป็นเหตุทำให้เจ้าหน้าที่สถานทูตฯ เข้าใจว่าผู้สมัครไม่ได้มีความตั้งใจจริง หรือ มีวัตถุประสงค์แอบแฝงที่จะทำผิดต่อเงื่อนไขของวีซ่าในการเข้าประเทศอเมริกาก็เป็นได้
- หากไม่เข้าใจคำถามให้ถามเจ้าหน้าที่ อย่าตอบไปเรื่อยแบบไม่ตรงคำถาม เพราะบางทีเราอาจจะเจอกับเจ้าหน้าที่สถานทูตฯที่เป็นต่างชาติสัมภาษณ์เป็นภาษาไทย (แต่อาจจะพูดไทยได้ไม่ชัดมาก) จึงควรตั้งใจฟังคำถามให้ดีๆ และตอบคำถามไปอย่างสุภาพและตั้งใจ หากไม่มั่นใจในคำถามควรบอกให้เจ้าหน้าที่ถามใหม่อีกครั้ง
- สิ่งต้องห้ามนำเข้าไปในวันสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาคือ อุปกรณ์อิเลคโทรนิค อาทิ พาว์เวอร์แบงค์หรือแผ่นซีดี ซึ่งหากเป็นกระเป๋า, โทรศัพท์ และของใช้ส่วนตัวอื่นๆ สามารถฝากไว้ตรงป้อมยามทางเข้าได้ ยกเว้นแต่พาวเวอร์แบงค์และแผ่นซีดี ที่ไม่สามารถรับฝากที่ทางเข้าของสถานทูตฯได้ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม
คำถามที่มักเจอในการสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา อาทิ
- คุณทำงานอะไร
- คุณจะไปทำอะไรในอเมริกา
- คุณจะเดินทางไปที่เมืองไหน
- คุณจะเดินทางเมื่อไหร่
- คุณจะอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกานานเท่าไร
- คุณจะไปพักที่ไหน กับใคร
- คุณมีคนรู้จักอาศัยอยู่ในอเมริกาหรือไม่
- ใครเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ และทำไม
- คุณจะเดินทางกลับประเทศไทยหรือไม่
หากผู้สมัครได้รับการปฎิเสธวีซ่า ต้องทำอย่างไรต่อ?
เจ้าหน้าที่กงสุลของสถานทูตอเมริกาจะพิจารณาการสมัครขอวีซ่าอเมริกาเป็นกรณีไป ซึ่งจะไม่มีเอกสารใดๆสามารถรับประกันได้ว่าผู้สมัครจะได้รับการอนุมัติวีซ่า(หรือถูกปฏิเสธวีซ่า) เนื่องจากในแต่ละกรณีมีความแตกต่างกัน ซึ่งเอกสารที่ทำให้บุคคลหนึ่งได้รับการอนุมัติวีซ่า อาจใช้ไม่ได้กับกรณีอื่นๆ เนื่องจากกระบวนการสมัครขอวีซ่าอเมริกามิได้ใช้เอกสารเป็นหลัก หากแต่ในวันที่สัมภาษณ์วีซ่า ผู้สมัครวีซ่าจะต้องแสดงถึงความผูกพันต่อประเทศของตน และแสดงความบริสุทธิ์ใจที่จะไม่กระทำการใดๆที่ผิดต่อเงื่อนไขของวีซ่าแต่ละประเภท
การปฏิเสธวีซ่าส่วนใหญ่จะเป็นการปฏิเสธเพราะผู้สมัครมีเอกสารไม่ครบและไม่สามารถตอบคำถามได้อย่างชัดเจน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมในการเตรียมตัว จึงอาจทำให้เจ้าหน้าที่กงสุลเชื่อว่าผู้สมัครไม่มีความบริสุทธ์ใจในการเดินทางเข้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา
ในกรณีที่ผู้สมัครได้รับการปฏิเสธวีซ่า ท่านสามารถสมัครวีซ่าอีกครั้งโดยแสดงหลักฐานที่น่าเชื่อถือหรือเอกสารเพิ่มเติมที่สามารถแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ของท่านได้เปลี่ยนไป ซึ่งเอกสารดังกล่าวจะต้องแสดงให้เห็นว่าผู้สมัครจะไม่กระทำการใดที่ผิดต่อเงื่อนไขของวีซ่า และจะเดินทางกลับประเทศไทยก่อนที่วีซ่าจะหมดอายุ
ในการสมัครวีซ่าใหม่ ผู้สมัครต้องปฏิบัติตามกระบวนการสมัครวีซ่าทั้งหมดอีกครั้ง โดยต้องกรอกแบบฟอร์มการสมัครวีซ่าใหม่ ชำระค่าธรรมเนียมการสมัครวีซ่าอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการสมัครวีซ่าอีกครั้งโดยที่ไม่มีหลักฐานที่หนักแน่นเพียงพอ อาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลของการพิจารณาอนุมัติวีซ่าได้
วีดีโอแสดงขั้นตอนการเข้าสัมภาษณ์วีซ่าที่สถานทูต
ที่มาวิดีโอ: จาก YouTube โดย U.S. Embassy Bangkok