วิธีเลือกโรงเรียน
หลักเกณฑ์ในการเลือกโรงเรียนของแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแต่ละบุคคลว่าเหตุผลหลักที่ต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศนั้นคืออะไร โรงเรียนที่ดีที่สุดอาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไป ความพร้อมทางด้านการเงินก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้ได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ คนไทยหลายๆคนมีความไฝ่ฝันที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศให้ได้สักครั้งในชีวิต บางคนต้องการไปเพื่อยกระดับความรู้ความสามารถของตนเอง, บางคนไปเพื่อต้องการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ, บางคนไปเพราะอยากเปิดโลกทัศน์และหาประสบการณ์แปลกใหม่, บางคนไปเพื่อกลับมาจะได้ทำงานดีๆเงินเดือนสูงๆ และสุดท้ายก็ต้องยอมรับว่ามีบางคนที่ต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่อไปทำ งานพิเศษหาเงินเพื่อเก็บเงินกลับมาเป็นทุนให้แก่ตนเอง แต่จะเลือกโรงเรียนอย่างไรให้เหมาะสมกับเรานั้นอาจต้องดูจากองค์ประกอบต่างๆเหล่านี้
1. หลักสูตรที่ต้องการ : การที่จะเลือกว่าเราเหมาะที่จะเรียนหลักสูตรอะไรนั้น ควรวิเคราะห์ให้ดีก่อนว่าหลังจากที่เรียนจบแล้วจะทำอะไรต่อ เมื่อเรามีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนแล้วจะได้เลือกเรียนในสาขาวิชาที่นำไปต่อยอดทางด้านการทำงานในอนาคตได้เพื่อไม่ให้เงินที่จ่ายค่าเรียนไปศูนย์เปล่า เรียกได้ว่าลงทุนไปทั้งทีต้องให้มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตหลังจากที่เรียนจบมาด้วย
2. ชื่อเสียงและคุณภาพของโรงเรียน : โรงเรียนที่ดีมีชื่อเสียงจะตามมาด้วยราคาที่สูงขึ้น ทั้งนี้คุณภาพที่ดีจะทำให้การเรียนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกันเพราะนักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพ นอกจากความรู้ที่ได้มาจากสถาบันที่มีคุณภาพแล้วสิ่งที่ได้ตามมาคือใบประกาศณียบัตรจากทางสถาบันที่จะการันตีคุณภาพของผู้สำเร็จการศึกษาได้เป็นอย่างดี
3. ราคาค่าเรียนโปรโมชั่น : ราคาค่าเรียนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะประกอบการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี ซึ่งบางโรงเรียนจะมีราคาโปรโมชั่นและส่วนลดค่าเรียนที่จะทำให้ประหยัดค่า เรียนไปเยอะมาก กรณีที่นักเรียนมีงบประมาณจำกัดอาจต้องลองพิจารณาโรงเรียนขนาดเล็กที่คุณภาพระดับกลางและมีราคาโปรโมชั่น เพื่อที่จะได้มีเงินเหลือเป็น Pocket Money ติดตัวไปใช้จ่ายที่ต่างประเทศในกรณีฉุกเฉินได้ แต่หากนักเรียนที่ต้องการเน้นคุณภาพและชื่อเสียงของโรงเรียนเป็นหลักเพราะต้องการศึกษาหาความรู้อย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ กรณีนี้ต้องมีความพร้อมทางด้านการเงินที่ดีเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายได้อย่าง ที่ตั้งใจไว้
4. จำนวนนักเรียนไทยในโรงเรียน : การคบเพื่อนต่างชาติเพื่อเอาไว้คุยฝึกภาษาฯ ก็เป็นวิธีการเรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่งที่จะทำให้เราได้พัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี หากโรงเรียนไหนมีจำนวนคนไทยที่มากเกินไปอาจทำให้เรามีโอกาศได้พบเพื่อนต่างชาติน้อยลง นักเรียนไทยบางคนไปเรียนต่างประเทศแต่กลับมีแต่เพื่อนคนไทยเพราะจะได้พูดคุยปรึกษาให้คลายเหงาในยามคิดถึงบ้าน ถึงแม้ว่าการเลือกคบแต่เพื่อนต่างชาติในต่างแดนเป็นสิ่งที่ทุกคนตั้งใจไว้ก่อนเดินทาง แต่พอเดินทางไปถึงที่ต่างประเทศจริงๆแล้วมีน้อยคนนักที่จะเลือกคบแต่เพื่อนต่างชาติเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองที่มีชื่อเสียงต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีคนไทยปะปนอยู่เป็นจำนวนมากจึงเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงในการเจอคนไทย นักเรียนจึงพยายามทำความรู้จักกับเพื่อนต่างชาติให้มากและเลือกที่จะมีเพื่อนสนิทคนไทยน้อยๆ จะได้ไม่เสียโอกาสในการได้ฝึกภาษาอังกฤษกับเพื่อนต่างชาติในต่างแดน
5. ที่ตั้งของโรงเรียน : การเดินทางจากที่พักไปยังที่เรียนก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะนักเรียนจะต้องเดินทางไปเรียนเกือบทุกวันและการเดินทางที่ต่างประเทศ ส่วนมากจะใช้บริการระบบขนส่งมวลชนของเมืองนั้นๆ อาทิรถไฟ หรือ รถเมล์ เมืองใหญ่ๆบางเมืองอาจมีการเดินรถไฟที่ซับซ้อน (มีหลายสาย) หากมีที่พักที่สะดวกต่อการเดินทางเช่น สามารถเดินเท้าจากที่พักไปยังที่เรียนได้เลย หรือ สามารถนั่งรถต่อเดียวแล้วถึงที่เรียนเลยก็จะช่วยให้การใช้ชีวิตในต่างแดนเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
ขั้นตอนการสมัครเรียนประเทศสหรัฐอเมริกา
1. หาข้อมูลโรงเรียน : เริ่มจากการหาข้อมูลของประเทศและเมืองที่ถูกใจก่อน เพราะในแต่ละเมืองของแต่ละประเทศจะมีความแตกต่างกันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพอากาศ, สภาพแวดล้อม, ความปลอดภัย และ ค่าครองชีพ องค์ประกอบเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการตัดสินใจ นักเรียนบางคนเลือกไปเรียนในเมืองที่มีญาติหรือคนรู้จักอยู่เพื่อจะได้รู้สึกอุ่นใจเมื่อไปอยู่ในต่างแดนคนเดียว บางคนเลือกไปเมืองที่คนไทยน้อยๆ เพื่อจะได้ฝึกภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางคนเลือกไปเมืองที่สามารถหางานพิเศษได้ง่ายๆ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น บางคนมีงบเยอะก็จะเลือกไปเรียนกับสถาบันที่ดีมีชื่อเสียงและมีคุณภาพสูง
2. ส่งเอกสารสมัครเรียน : เมื่อได้โรงเรียนที่โดนใจแล้ว ก็เตรียมส่งเอกสารสมัครเรียนกันแต่เนิ่นๆได้เลย ส่วนมากแล้วเอกสารประกอบการสมัครเรียนก็จะมี สำเนาพาสปอร์ต, ใบสมัครของโรงเรียน, ผลการเรียน, ผลสอบภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของโรงเรียนนั้นๆและหลักสูตรที่จะไปเรียน หลังจากทางโรงเรียนได้รับเอกสารการสมัครเรียนทั้งหมดแล้ว ทางโรงเรียนจะตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเพื่อพิจารณาออกเอกสารตอบรับเข้าเป็นนักเรียนของทางโรงเรียน
3. ชำระเงิน : หลังจากที่ได้รับเอกสารตอบรับจากทางโรงเรียนแล้ว ตรวจสอบรายละเอียดตัวสะกดชื่อ-นามสกุล และวันเดือนปีเกิดให้ถูกต้อง เพราะข้อมูลต่างๆเหล่านี้จะต้องตรงกับที่ระบุในหน้าพาสปอร์ตเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในตอนยื่นเอกสารสมัครขอวีซ่ากับทางสถานทูตฯ
4. เตรียมเอกสารยื่นวีซ่า : ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากๆเลยทีเดียว เพราะปัจจุบันสถานทูตต่างๆล้วนแล้วแต่มีเกณฑ์ในการอนุมัติวีซ่าที่เคร่งครัด บางกรณีโชว์เงินเยอะ โปรไฟล์ดีแต่เตรียมเอกสารไม่ครบก็ไม่ผ่าน บางกรณีเอกสารครบแต่คุณสมบัติไม่ผ่านก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะเหตุนี้นักเรียนจึงควรหาข้อมูลให้แน่นๆ เตรียมเอกสารให้ครบ(เหลือดีกว่าขาด) เพื่อจะได้ไม่เสียประวัติกับทางสถานทูตเพียงแค่เหตุเพราะขาดเอกสารบางอย่างเท่านั้นเอง


แนะนำสถาบันในบอสตัน
COM_SPPAGEBUILDER_NO_ITEMS_FOUND
แนะนำสถาบันในชิคาโก
COM_SPPAGEBUILDER_NO_ITEMS_FOUND